ปิโตรเลียม เจลลี่ เติมความชุ่มชื้นหรือทำร้ายผิว
ปิโตรเลียม เจลลี่ นับเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่ทุกคนน่าจะเคยใช้ มักพบได้ในผลิตภัณฑ์ความงามหลายๆชนิด เช่น ลิปบาล์ม ครีมทาผิว ครีมกันแดด เมคอัพ รีมูฟเวอร์ ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม ครีมนวดผม บำรุงเล็บ เป็นต้น มีคุณสมบัติที่ช่วยในการเคลือบผิว ไม่สามารถละลายน้ำได้ ทำให้ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิวพรรณและริมฝีปากได้เป็นอย่างดี ลดการระคายเคือง รวมถึงช่วยในการสมานแผลที่เกิดจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลพุพอง นับว่ามีคุณสมบัติสารพัดประโยชน์จนทำให้ ปิโตรเลี่ยมเจลลี่ กลายเป็นส่วนผสมยอดนิยมในวงการแพทย์และผลิตภัณฑ์ความงาม
ปิโตรเลียม เจลลี่ ปลอดภัยจริงหรือ?
ปิโตรเลียม เจลลี่ มีลักษณะเป็นน้ำมันใส ไม่มีกลิ่น ได้จากกระบวนการกลั่นแยกออกจากน้ำมันดิบ แต่เนื่องจากกระบวนการย่อยสลายปิโตรเลี่ยม เจลลี่ มีราคาสูง ทว่าสามารถนำมาขายได้ จึงถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมความงามอย่างแพร่หลาย เพราะมีราคาถูก มากกว่าขี้ผึ้งธรรมชาติ และมีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน
แต่ปิโตรเลี่ยม เจลลี่ ที่สามารถนำมาใช้กับผิวได้อย่างปลอดภัยนั้น ต้องผ่านกระบวนการกลั่นบริสุทธิ์หลายครั้ง และในทุกครั้งต้องมีกระบวนการตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่า ปราศจากการปนเปื้อนหรือสารพิษตกค้างจากโลหะหนักต่าง ๆ ทางที่ดีผู้บริโภคควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของปิโตรเลียม เจลลี่ ที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานด้านสุขภาพและยาระดับโลก ทั้งยังเป็นส่วนผสมอันตรายที่ NIH ห้ามรับประทานหรือดื่มเป็นอันขาด
ข้อเสียที่อาจเกิดจากปิโตรเลียมเจลลี่
- สารเคมีปนเปื้อนที่อาจตกค้างระหว่างขั้นตอนการกลั่นที่ไม่ได้คุณภาพ อาจก่อให้เกิดมะเร็งได้
Environmental Working Group (EWG) หรือองค์กรที่ดูแลเรื่องสารเคมีในเครื่องสำอาง อาหาร และสิ่งแวดล้อม ระบุว่า สารปนเปื้อน (PAHs) ในปิโตรเลียม เจลลี่ เป็นสารก่อมะเร็งที่หากสะสมไว้ในร่างกายมากๆจะทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบฮอร์โมน ระบบประสาทรับกลิ่น ระบบหัวใจ ระบบทางเดินอาหารและตับ นอกจากนั้นยังเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
- เกิดโรคแทรกซ้อนจากเชื้อรา
ด้วยคุณลักษณะของปิโตรเลียมเจลลี่เป็นสารกันน้ำ (waterproof barrier) จึงเป็นเสมือนฟิล์มเคลือบผิว ทำให้ผิวหายใจไม่ออก หากใช้ในเครื่องสำอางจะทำให้เกิดการอุดตันได้ง่าย นอกจากนั้นความอุ่นและความชื้นที่ถูกเคลือบไว้ใต้ปิโตรเลียมเจลลี่ กลายเป็นที่เจริญเติบโตชั้นดีของเจ้าเชื้อรา ซึ่งมีงานวิจัยที่ทำในเด็กแรกเกิดที่มีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง ให้ผลว่ามีการเกิดความเสี่ยงในการเติบโตของเชื้อราไปถึงอวัยวะภายใน
- หากใช้ต่อเนื่องในระยะยาว อาจทำให้ผิวเสื่อมสภาพไวและแห้งกร้าน
เนื่องจาก การทาปิโตรเลียมเจลลี่ ก็เหมือนเป็นการเคลือบผิวไว้ ไม่มีอากาศถ่ายเทสู่ชั้นผิว ไม่ละลายในน้ำ ทำให้รบกวนกลไกการทำงานตามธรรมชาติของผิว ทำให้ผิวชะลอการผลิตน้ำมันเคลือบผิวตามธรรมชาติเพราะเข้าใจว่าผิวมีความชุ่มชื้นเพียงพอแล้ว จนกระบวนการผลิตน้ำมันเคลือบผิวเสื่อมสภาพ และทำงานช้าลง หากเราหยุดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวนั้นๆ ผิวก็จะแห้งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผิวเสื่อมสภาพ แก่เร็วขึ้น และเกิดริ้วรอยได้ง่าย เมื่อโดนแสงแดด ก็เสี่ยงต่อการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ
- ทำให้เกิดการอุดตัน เป็นสิว ผื่น
การใช้ปิโตรเลียม เจลลี่ หากไม่ทำความสะอาดให้ดี จะทำให้เกิดการอุดตัน ทำเป็นสิวได้
ดังนั้น หากหลีกเลี่ยงได้ เราควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของปิโตรเลียม เจลลี่ ที่ไม่สามารถตรวจสอบคุณภาพการกลั่นอย่างละเอียดได้ แล้วเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมมาจากธรรมชาติ อย่างเช่น ขี้ผึ้ง น้ำมันมะพร้าว เชียบัทเทอร์ โกโก้บัทเทอร์ ที่ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิวและไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพแทน จะดีกว่าค่ะ